12 วิธีออมเงิน ไว้ซื้อกระเป๋าหนังแท้

อยากได้เครื่องหนังราคาแพง แต่จ่ายเงินสดไม่ไหว

ในยุคที่เศรษกิฐย่ำแย่มากที่สุดในรอบ 10 ปีนี้ การที่จะมีกระเป๋าหนังแท้ แบรนด์เนมดี ๆ สักใบคงเป็นความฝันของผู้หญิงหลาย ๆ คน แม้ว่าบางใบราคาจะสูงจนซื้อมอเตอร์ไซค์ได้ก็ตาม แต่ความสวยงามและความเป็นเอกลักษณ์ทำให้เป็นที่ต้องการมาโดยตลอด

หากคุณลอง ค้นใน google จะพบว่ามีผู้คนจำนวนมากตั้งคำถามเกี่ยวกับการซื้อสินค้าแบรนด์เนม หรือหากใครเป็นขาประจำ pantip จะเจอคำถามแบบนี้บ่อยมาก เช่น ชื้อ/ผ่อน กระเป๋าแบรนด์เนม ซึ่งตรงนี้เป็นจุดที่ทำให้คิดว่า คนไทยยังมีความต้องการอีกมากในเรื่องสินค้าแฟชั่น

อ่านเพิ่มเติม : 9 ข้อดีการซื้อกระเป๋าหนังแบรนด์ไทย

แต่ยังขาดการออมเงิน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการบริหารเงินอย่างถูกต้อง คิดง่าย ๆ หากคุณมีการออมที่ดี ย่อมหมายถึงคุณสามารถซื้อสินค้าได้ตามที่คุณต้องการ

วิธีการออมเงินในแบบง่ายๆ

มีหลากหลายวิธี แต่วันนี้ MARAH5G จะนำเสนอวิธีที่ง่ายและได้ผลจริงซึ่งมีหลากหลายวิธี ใครสะดวกใช้วิธีไหนก็เลือกได้ตามความสมัครใจเลย

1.การออมเงินโดยเก็บเฉพาะแบงค์ 50

เป็นเทรนการเก็บเงินที่มาแรงมาก เป็นกระแสใน pantip อยู่พักใหญ่ ๆ เหมือนกัน เป็นการเก็บเงินที่เรียกได้ว่ายอดนิยมมากที่สุดวิธีหนึ่ง

วิธีการก็ไม่อยากเลย ทุกครั้งที่คุณออกไปซื้อสินค้าหากมีการทอนเงินมา แล้วได้แบงค์ 50 ให้คุณแยกใส่กระปุกไว้เลยห้ามใช้และห้ามดู กลั้นใจลึกๆ แล้วใส่ลงกระปุกไปเลย

วิธีนี้ใช้ได้ทั้งมนุษย์เงินเดือนและมนุษย์รายวัน เหมาะสำหรับคนใจแข็งที่ต้องการเก็บเงินให้ได้ไว ๆ ลองทำสักเดือนแล้วลองเปิดกระปุกมาดู บางทีคุณอาจจะมีเงินมากพอที่จะซื้อเครื่องหนังที่คุณต้องการแล้วก็ได้

2.สำหรับสายโหด เก็บแบงค์ร้อยทุกใบ

อันนี้สำหรับสายโหดที่ต้องการประหยัด แบบประหยัดทุกเม็ดจริง ๆ เพราะว่า หากคุณใช้แบงค์พันเมื่อไหร่ รับประกันว่าคุณได้แบงค์ร้อยมาเป็นปึกแน่ 

ดังนั้นก่อนใช้วิธีนี้ ควรชั่งใจซะก่อนว่าทำได้แน่หรือเปล่า เพราะหากมีเงินสดหมุนเวียนน้อยเกินไปอาจจะทำให้เกิดปัญหาทางการเงินก่อนที่คุณจะได้เครื่องหนังที่คุณต้องการ

3.เก็บทุกแบงค์ที่ลงท้ายด้วยเลขที่ชอบ

ธนบัตรทุกใบจะมีเลขกำกับ คุณก็กำหนดไปเลยว่าจะเก็บเลขไหนไว้ เช่น หากคุณชอบเลข 7  แบงค์ทุกใบที่ลงท้ายด้วยเลข 7 จะต้องถูกหยอดลงกระปุกโดยไม่มีข้อยกเว้น  แม้ว่าแบงค์ใบนั้นจะเป็นแบงค์พัน ก็ตาม

4.เก็บเงินที่ได้จากเศษไว้เป็นเงินออม

ทุกครั้งที่ออกไปใช้จ่าย แล้วได้เงินทอนมาให้คุณทำกฏไว้กับตัวเองเลยว่า จะใช้หลักไหน เช่นออมหลักสิบ ก็ให้ทำแบบนี้  หากได้เงินทอนมา 460 บาท ให้คุณเก็บ  400 บาทไว้ในกระเป๋าสตางค์ของคุณ  แล้วเอา 60 บาท หยอดลงกระปุก วิธีนี้ก็ง่ายและไม่ลำบากจนเกินไป

หรือหากเป็นคนชอบซื้อของกระจุกกระจิกก็เก็บหลักหน่วยแทน เช่น ซื้อข้าวผัดกระเพรารวมมิตร 35 บาท ให้แบงค์ 50 ไป ได้เงินทอนมา 15 บาท  เก็บ 10 บาทไว้กับตัวเอง หยอดลงกระปุก 5 บาท

5.หลีกเลี่ยงการไปช้อปปิ้งให้มากที่สุด

แค่คุณคิดจะออกไปช้อปปิ้ง ไม่ว่าจะไปกับครอบครัว, แฟน, หรือเพื่อน ก็ทำให้คุณเริ่มจะเก็บเงินไม่อยู่แล้ว นั่นเพราะอะไรสาเหตุมาจากเราต้องยอมรับก่อนว่า ความสุขในการช้อปปิ้งมักจะทำให้คุณต้องจ่ายเงินไปกับสิ่งที่ไม่ได้ตั้งใจชื้อจริง ๆ คือเดินไปอาจจะเจอนั่นเจอนี่ แม้ว่าจะมีราคาที่ไม่แพง แต่พอรวมกันแล้วก็คิดเป็นเงินหลายบาทเหมือนกัน

ก่อนจะออกจากบ้านได้ ต้องมีทั้งค่าน้ำมัน ค่าใช้จ่ายตลอดเวลา เดินเล่นเพลิน ๆ หิวน้ำซื้อน้ำกิน กลายเป็นเสียเงินเพิ่มอีก นี่คือสาเหตุที่ว่าทำไมคนที่ต้องการประหยัด จึงต้องหลีกเลี่ยงการเดินช้อปปิ้ง

6.หักเศษเงินที่ได้จากเงินเดือน

วิธีนี้เหมาะสำหรับมนุษย์เงินเดือนที่สุดแม้ว่าจะเป็นวิธีที่นาน ๆ จะได้ใช้ แต่ก็เป็นวิธีการออมที่สะดวกมาก ๆ ยกตัวอย่างเช่น คุณได้เงินเดือน 17,500 คุณเก็บไปเลย 500 บาทต่อเดือนแค่นี้คุณก็สามารถออมเงินได้โดยที่ไม่เดือนร้อนแล้ว แต่อาจจะใช้เวลานานนิดหน่อย หากต้องการซื้อราคาแพง

7.วิธีไม่ใช้บัตร atm

วิธีนี้แม้จะโบราณไปแล้ว แต่เชื่อว่าได้ผลง่ายมากอีกวิธีหนึ่ง ในทุกวันนี้ทางธนาคารจะไม่บังคับใช้บัตร atm แต่คุณก็ไม่ควรลง app ธนาคารไว้ในเครื่องมือถือด้วย

คืองดการออกของเงินในบัญชีไปเลย โดยการเปิดบัญชีออมทรัพย์แล้วตั้งกฏกับตัวเองไปเลยว่า เดือนนี้จะเก็บเงินเท่าไหร่สินปี คุณลองไปอัพเดทดูจะพบว่า เงินคุณเหลือมากพอจะซื้อสินค้าต่าง ๆ แล้ว

8.ใช้บัตรเครดิตผ่อน 0%

แทบจะเป็นวิธีที่ตรงข้ามกับวิธีด้านบนเลย แต่วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีระเบียบวินัยใจการจ่ายบัตรในวงเงินที่ธนาคารกำหนดไว้อย่างเคร่งครัด

ไม่งั้นแทนที่คุณจะผ่อน 0% จะกลายเป็นว่าคุณต้องมาเป็นหนี้บัตรเครดิตพร้อมดอกเบี้ยรายเดือน แล้วยิ่งบางคนไม่ค่อยมีระเบียบวินัยในการใช้บัตรเครดิตจะทำให้คุณมีปัญหาทางด้านการเงินได้ทันที

9.กำหนดยอดที่ต้องการจะใช้

ยกตัวอย่างหากคุณถูกใจ ผลิตภัณฑ์เครื่องหนังแบรนด์ดังสักยี่ห้อหนึ่ง  ในราคา 7,000 บาท คุณก็ตั้งเป้าเลยว่าอยากเป็นเจ้าของในระยะเวลากี่เดือน ก็เอา ราคาสินค้าหารด้วยจำนวนเดือน ไปเลยก็ได้

วิธีนี้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่ไม่รีบร้อนจะซื้อ คือมีเงินเมื่อไหร่ก็ซื้อเมื่อนั้น เวลาตั้งเป้าหมายจำนวนเดือนหากคุณไม่อยากจะเดือนร้อน ก็กำหนดให้มันนาน ๆ ไปเลยก็ได้ อาจจะเป็น 10 เดือนหรือ 15 เดือน

10.กินให้น้อย กินแต่พอดี

วิธีนี้นอกจากจะเป็นการลดค่าใช้จ่ายแล้ว ยังเป็นการสร้างสุขภาพที่ดีให้กับร่างกายด้วย คือมันจะไม่มีประโยชน์อะไรหากคุณมีเครื่องหนังแบรนด์เนม

แต่สุขภาพคุณไม่เอื้ออำนวย ได้แต่เจ็บป่วยเพราะการทานอาหารมากเกินไป  การกินแต่น้อยไม่ได้หมายความให้คุณอดยาก แต่เป็นการกินอะไรที่มีประโยชน์และราคาไม่แพงมากนัก

อย่างเช่นปกติคุณชอบไปกินอาหารในห้าง คุณก็ลองทำอาหารกินเอง โดยทำอาหารประเภทที่ทานได้หลายมื้อหน่อย 1 มื้อคุณประหยัดได้ทั้งค่าเดินทางและค่าอาหารไปพร้อม ๆ กันเลยทีเดียว

11.วางแผนค่าใช้จ่ายต่อเดือน

การวางแผนค่าใช้จ่ายต่อเดือนนั้น เริ่มต้นจากการทำบัญชีรายรับรายจ่าย ต้องระบุไปเลยว่าใน 1 เดือนคุณมีค่าใช้จ่ายอะไรที่ตายตัวไหม ก็จดลงไปเลย มีค่าเดินทางเท่าไหร่ มีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เท่าไหร่  เงินที่เหลือจากตรงนี้คุณสามารถนำมาเป็นเงินออมได้เป็นอย่างดี 

12.ขายกระเป๋าแบรนด์เนมมือสองใบเก่าที่ไม่ได้ใช้ออกไปบ้าง

อันนี้เรียกได้ว่าพูดยาก พูดลำบากกันเลยทีเดียว เมื่อคุณสามารถซื้อสินค้าได้แล้ว หากคุณต้องการใบใหม่ วิธีที่ง่าย และรวดเร็วอีกอย่างหนึ่งคือ ขายใบเก่าทิ้งแล้วซื้อใบใหม่ซึ่งราคาก็แปรผันไปตามแบรนด์ สภาพและความนิยมในขณะนั้น

หรืออาจจะขายเพราะเริ่มเบื่อ, หรือเริ่มมีปัญหาในเรื่องของการใช้งานต่าง ๆ เช่น ช่องไม่เพียงพอต่อการใช้งาน หรือสภาพเริ่มไม่ดีแล้วก็อาจจะต้องตัดสินใจขายทิ้ง

ก็จบกันไปแล้ว สำหรับวิธีการออมเงินเพื่อเก็บไว้ซื้อเครื่องหนังชนิดต่าง ๆ ซึ่งแท้จริงแล้วมีหลากหลายวิธีมาก แต่วิธีที่เขียนมาให้นี้เป็นวิธีที่ใช้ได้จริงและง่ายต่อการลงมือทำ

อ่านเพิ่มเติม : 7 สัญญาณบ่งบอกว่า คุณควรซื้อกระเป๋าใบใหม่

คำถามประจำบทความ

อ้างอิง

burnstation.net

theluxilook.com

americasaves.org

• Facebook
• Twitter
• Line